เรื่องกล้วยๆ แต่ช่วยคุณได้เยอะ
เคยสังเกตบ้างมั้ยว่านักกีฬาระดับโลก อย่างเทนนิส หรือรถแข่ง มักจะกินผลไม้อะไรเป็นประจำในเวลาพักระหว่างเกม...ก็ 'กล้วย" ไง!!
กล้วย เมื่อเปรียบเทียบกับแอปเปิ้ลแล้ว กล้วยมีโปรตีนมากกว่าแอปเปิ้ลสี่เท่า มีคาร์โบไฮเดรตมากกว่า สองเท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่าสามเท่า มีวิตามินเอและธาตุเหล็กมากกว่าห้าเท่า และมีวิตามินรวมทั้งแร่ธาตุอื่นๆ มากกว่าสองเท่า และอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและประสาท ช่วยควบคุมความดันโลหิต
นอกจากนี้ กล้วยยังมีเส้นใยและกากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นกล้วยสดหรือตากแห้งยังอุดมไปด้วยน้ำตาลธรรมชาติสามชนิด คือซูโครส (Sucrose) ฟรุคโตส (Fructose) และ กลูโคส (Glucose) น้ำตาลเหล่านี้จะหมุนเวียนในกระแสโลหิต ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงพวกไฟเบอร์หรือเส้นใยต่างๆ ซึ่งทำให้กล้วยกลายเป็นแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ที่ร่างกายสามารถนำมาใช้ได้ทันที จากการวิจัยพบว่า กล้วยเพียงแค่สองผลให้พลังงานเพียงพอสำหรับการทำงานหนักนานถึง 90 นาที จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่กล้วยเป็นผลไม้คู่กายของพวกนักกีฬาชั้นนำระดับโลก นอกจากกล้วยจะให้พลังงานมากมายแล้ว กล้วยยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และเพิ่มความแข็งแรง สมบูรณ์ให้แก่ร่างกายของเราได้อีกด้วย เป็นต้นว่า
โรคซึมเศร้า จากการสำรวจโดย MIND ในกลุ่มของผู้ที่มีอาการซึมเศร้า หลายๆ คนรู้สึกดีขึ้นเมื่อกินกล้วยเหตุผลก็คือกล้วยมีส่วนประกอบของทริปโตแฟน (Tryptophan) โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายของเราจะเปลี่ยนให้เป็น เซโรโทนิน (Serotonin) ที่รู้จักกันดีว่าจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น นอกจากนี้กล้วยยังมีส่วนประกอบของวิตามินบี 6 ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของคุณให้คงที่ ซึ่งมีผลไปถึงอารมณ์ของคุณด้วย ผู้หญิงที่มีอาการ PMS (Premenstrual Syndrome) หรือช่วง 'รมณ์บ่จอย' ก่อนมีประจำเดือน) ควรกินกล้วยจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นนะจ๊ะ
โรคโลหิตจาง กล้วยมีธาตุเหล็กอยู่มาก สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงและช่วยรักษาอาการโลหิตจางได้ โรคเกี่ยวกับความดันโลหิต กล้วยมีโปแตสเซียมสูงมากในขณะที่มีเกลือต่ำ จึงช่วยปรับความดันเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ อีกทั้งกระตุ้นการทำงานของสมองให้รู้สึกตื่นตัว องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ยอมให้โรงงานผลิตกล้วยกล่าวอ้างได้ว่ากล้วยช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับความดันโลหิตได้
ท้องเสีย กล้วยดิบมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย เช่น Escherichia coli สารสำคัญคือแทนนิน มีฤทธิ์แก้อาการท้องเสีย โดยนำกล้วยดิบมาหั่นบางๆ ตากแดดให้แห้ง แล้วบดให้ละเอียดเป็นแป้ง ใช้ผงกล้วยนี้ในปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ ใส่ในถ้วยน้ำชา ผสมกับน้ำผึ้งหนึ่ง ช้อนโต๊ะ รับประทานแก้ท้องเสีย
ท้องผูก กล้วยมีไฟเบอร์สูงช่วยให้ลำไส้ใหญ่ของเรากลับมาทำงานได้เป็นปกติโดยไม่ต้องพึ่งพาพวกยาถ่ายต่างๆ อีกต่อไป
แก้อาการเมาค้าง หนึ่งในวิธีรักษาอาการแฮงค์ให้เร็วที่สุดก็คือการกินน้ำกล้วยปั่น หรือ Banana Milkshake ผสมน้ำผึ้ง กล้วยช่วยให้กระเพาะอาหารกลับมาอยู่ในสภาพปกติ น้ำผึ้งช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด และนมจะช่วยเพิ่มน้ำให้แก่ร่างกาย
รักษาอาการเจ็บเสียดหน้าอก กล้วยดิบตากแห้งช่วยให้เกิดปฏิกิริยาในร่างกาย ที่จะไปหักล้างกับกรดในกระเพาะอาหารที่มีเยอะเกินไป จนทำให้เรารู้สึกเจ็บเสียดที่หน้าอก-แก้อาการ Morning Sickness หรืออาการคลื่นไส้และอาเจียนเวลาตื่นนอนตอนเช้า จะเป็นมากในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ระยะแรก การกินกล้วยเป็นของว่างระหว่างมื้อจะช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด สามารถช่วยลดอาการ Morning Sickness ได้ดี
ระบบประสาท กล้วยมีวิตามินบีสูง ช่วยในการทำงานของระบบประสาท น้ำหนักเกินเพราะความเครียดจากการงาน จากการศึกษาของสถาบันด้านจิตวิทยาในออสเตรียพบว่า ความเครียดที่เกิดจากการทำงานนำไปสู่พฤติกรรมการกินที่แย่ลง เช่น อาหารขยะ ช็อคโกแลตและมันฝรั่งทอดบ่อยๆ เมื่อพิจารณาผู้ป่วยกว่า 5,000 คน นักวิจัยพบว่าคนที่เป็นโรคอ้วนส่วนใหญ่ทำงานท่ามกลางแรงกดดันสูง รายงานนั้นสรุปว่าถ้าต้องการหลีกเลี่ยงการกินอย่างไม่ยั้งคิด เราต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดโดยเลือกกินของว่างที่มีคาร์โบไฮเดรตเยอะๆ ทุกสองชั่วโมง จะอะไรซะอีก...ก็ "กล้วย" ไง
รักษาแผลในกระเพาะอาหาร กล้วยเป็นอาหารที่ใช้ต่อสู้กับอาการผิดปกติต่างๆ ในระบบทางเดินอาหารเนื่องจากกล้วยมีผิวสัมผัสที่นุ่มและลื่น เป็นผลไม้ชนิดเดียวที่สามารถกินได้โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ที่เป็นแผลเรื้อรัง รวมทั้งยังช่วยปรับภาวะกรดเกินในกระเพาะอาหารให้กลับสู่ปกติ ช่วยลดอาการระคายเคือง โดยทำหน้าที่ช่วยเคลือบผิวของกระเพาะอาหารได้ ตะคริว ผู้ที่มักจะเป็นตะคริวที่เท้า ข้อเท้า และน่องบ่อยๆ การรับประทานกล้วยเป็นประจำจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้
ควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย หลายๆ ท้องถิ่นเห็นว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่ช่วยทำให้ทั้งอุณหภูมิร่างกายและอารมณ์ของคนที่กำลังจะเป็นแม่เย็นลงได้ ในประเทศไทย ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มักจะทานกล้วยเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กในครรภ์จะเกิดมาด้วยอุณหภูมิที่เย็น Seasonal Affective Disorder (SAD) กล้วยช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า จากสารประกอบ Tryptophan ที่ช่วยในการควบคุมอารมณ์
ช่วยเลิกสูบบุหรี่ กล้วยยังสามารถช่วยคนที่ต้องการเลิกบุหรี่ได้ด้วย กล้วยมีวิตามินบี 6 และ บี12 รวมไปถึงโปแตสเซียมและแมกนีเซียมที่ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายจากผลของการเลิกนิโคติน
กันยุงกัด ก่อนที่จะไปหยิบเอายาทายุงกัดมาใช้ ลองเอาผิวด้านในของเปลือกกล้วยมาถูๆ บริเวณที่ยุงกัดดู หลายคนพบว่ามันช่วยลดอาการบวมและคันได้อย่างไม่น่าเชื่อ...แล้วคุณจะมอง "กล้วย" ในมุมที่เปลี่ยนไป...(ล้อมกรอบ)
ทราบหรือไม่แทบจะทุกส่วนของกล้วยมีสรรพคุณทางยาทั้งสิ้น ยกตัวอย่างเช่น
- ผลกล้วยสุก บรรเทาอาการท้องผูก ความดันโลหิตสูง เจ็บคอ บำรุงผิว
- ต้นและใบแห้ง นำมาเผา รับประทานครั้งละประมาณหนึ่งช้อนชา หลังอาหาร แก้เคล็ดขัดยอก
- หัวปลี ช่วยบำรุงน้ำนม
- ยางจากปลีกล้วยหรือก้านกล้วย ใช้รักษาแผลสด และทาแก้แมลงสัตว์กัดต่อยได้
- รากกล้วย แก้ปวดฟัน แก้ร้อนใน โลหิตจาง ปวดหัว ปัสสาวะขัด แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
- ดอกกล้วย ช่วยเรื่องประจำเดือนขัด แก้ปวดประจำเดือน โรคเบาหวานและโรคหัวใจ
- เปลือกกล้วย แก้ผิวหนังเป็นหูด ตุ่มคัน หรือเป็นผื่น และฝ่ามือฝ่าเท้าแตก